วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่ 20

สวนอาหารริมแม่น้ำยามนี้ผู้คนเนืองแน่น ทุกโต๊ะริมน้ำถูกจับจอง สายตาเธอมองทอดไปยังอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าอยู่รำไร 

ห้องวีไอพีถูกจองไว้เพื่อโอกาสพิเศษ พร้อมป้าย วันเกิดแป้งและปอนด์
กล่องของขวัญลายน่ารักเขียนชื่อผู้ให้วางอยู่จนเกือบเต็มโต๊ะ ห้องวีไอพีถูกประดับประดาไปด้วยลูกโป่งและสายรู้งหลากสี มีเพียงเพื่อนที่สนิทเท่านั้นที่มาร่วมงาน
"สุขสันต์วันเกิดนะปอนด์ สุขสันต์วันเกิดนะแป้ง" เจ้าของเสียงใสยื่นของขวัญให้เพื่อนทั้งสอง
วันนี้แป้งน่ารักมาก เป็นผู้หญิงที่ดูดีทั้งนิสัยและหน้าตา ส่วนปอนด์นั้นหล่อหวานซะใจแทบละลาย จนบางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งสองนั้นเป็นแฝดกัน หรือพระเอกนางเอกหนังเกาหลีกันแน่!!

งานวันเกิดดำเนินไปอย่างสนุกสนาน บ้างก็ร้องคาราโอเกะ บ้างก็เต้นเป็นหางเครื่อง บ้างก็นั่งคุยกัน จนเวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืน ต่างคนต่างเริ่มทยอยกลับบ้านตามอัธยาศรัย
"วี ให้เราไปส่งนะ" ปอนด์เอ่ยเมื่อเห็นวีกำลังจะเดินไปส่งเมร์ที่ลานจอดรถ "เดี๋ยวเราต้องแวะไปเอาของที่ร้านให้พ่ออ่ะ ผ่านบ้านวีพอดี"
"ไม่เป็นไรหรอกปอนด์ เราโอเค" หล่อนปฏิเสธด้วยความเกรงใจ
"ให้เราไปส่งเถอะ ดึกแล้ว เราเป็นห่วง" ปอนด์คะยั้นคะยอจะไปส่งให้ได้จนเธอยอมแพ้และตกลง

"ขอบคุณนะที่มางานวันเกิด" ปอนด์เอ่ยทำลายความเงียบที่ปกคลุมอยู่ในรถ
"ก็ต้องมาสิ วันเกิดเพื่อนตั้งสองคน" เสียงใสตอบอย่างสดใส
"ฮื่ม เหลือเชื่อจริง จะตีหนึ่งแล้วยังสดใสได้อีก" หนุ่มหน้าเกาหลีแซวไม่จริงจังนัก
"ขอบใจนะที่มาส่ง ปอนด์ก็ขับรถดีๆล่ะ" คนตัวเล็กลงจากรถพร้อมโบกมือลาก่อนเดินเข้าบ้าน


เรื่องไม่เด็ก ตอนที่ 19

"แกว่ามันจะโอเคจริงๆหรอวะ" เสียงแหลมเอ่ยขึ้นขณะอยู่บนรถไฟ
"ทำไมจะไม่โอล่ะ"
"ก็อยู่ไกลๆกัน ไม่เห็นว่าเขาทำอะไร ยังไง กับใคร.."
"หยุดเลยแก!! นี่พี่เขายังไปไม่ถึงเชียงใหม่เลยนะ แกนี่ไปไกลเกินไปไหม" เธอปรามเพื่อนที่เริ่มสันนิฐานยาวเหยียดให้เธอฟัง
"คิดไว้บ้างมันก็ดี อย่าหาว่าฉันไม่เตือน 1 ปีอ่ะ มันนานนะ" คำพูดนี้แทงใจดำคนฟังอย่างจัง อีก 1 ปีเธอถึงจะตามเขาไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เธอต้องตั้งใจเรียนเพื่อสอบให้ติดในคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการ และที่สำคัญ...ต้องเชียงใหม่

ความรู้สึกเสียวแปล๊บที่หัวใจกำลังบอกอะไรเธออยู่กันนะ แต่จะว่าไปก็ใจหายและเริ่มคิดถึงแล้วสิ
"ฮัลโหล เออๆ ได้สิ เคๆ" เสียงคุยโทรศัพท์ดึงเธอออกจากภวังค์เล็กน้อย "แก ไปงานวันเกิดแป้งกับปอนด์ไหม เสาร์หน้า"
หล่อนได้เพียงพยักหน้าตอบเล็กน้อย
"โอ๋ ฉันขอโทษ ฉันก็พูดไปเรื่อย แต่ฉันเป็นห่วงแกนะเว้ย" มืออูมลูบหลังให้กำลังคนหน้าหงอยอย่างรู้สึกผิด "แกชอบพี่เขามากเลยใช่ไหม"
"มันมากกว่าชอบนะ เหมือนปลื้ม คลั่งไคล้ เป็นห่วง คิดถึง.. ก็ชอบนั่นแหละ" เธอตอบเพื่อนเสียงเรียบ
"แกเป็นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมแกไม่เล่าให้ฉันฟังมั่งวะ" เสียงแหลมเริ่มมีน้ำเสียงจริงจังปนห่วงใย
"ไม่รู้สิแก ฉันรู้สึกดีมากๆที่ได้เห็นหน้า ได้อยู่ใกล้ ได้จับมือเขาอ่ะ" หล่อนเม้มปากนึกถึงวันแรกที่พบเขาที่สถานีรถไฟ "ชอบตั้งแต่เห็นเขาครั้งแรก"

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่18

"ว่างๆ จะไปเที่ยวหานะ" เจ้าของเสียงใสส่งยิ้มกว้างให้กับผู้ที่กำลังจะต้องเดินทางในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้
สนามบินยามนี้มีผู้คนขวักไขว่หนาตา แม่จะเป็นเพียงสนามบินภายในประเทศที่เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นาน
"ไปได้แล้วแก เดี๋ยวตกเครื่อง เสียค่าตั๋วฟรีนะ"  เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้น เมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทาง
"ขอบใจนะทุกคนที่มาส่ง วันไหนกลับมาจะโทรนัดกินข้าวกัน แต่ถ้าใครไปเชียงใหม่ก็บอกนะ จะได้พาเที่ยว" เสียงหวานบอกลาทุกคนก่อนจะหันไปสบตาสาวน้อยที่ยืนส่งยิ้มให้เขาอยู่ข้างๆ
"มีอะไรก็โทรมานะคะพี่เจ ว่างๆวีจะไปเที่ยวหา" นิ้วเรียวลูบปอยผมที่หลุดรุ่ยของคนตัวเล็กกว่าเป็นเชิงปลอบใจ "ไปได้แล้วค่ะ ชักช้าเดี๋ยวตกเครื่องจริงๆนะเนี่ย" เธอเอ็ดเบาๆพร้อมส่งยิ้มน่าเอ็นดูที่สุดให้เขา

"เมร์ พี่วานส่งวีให้ถึงบ้านด้วยนะ ยัยเนี่ยชอบเถลไถล" เสียงหวานเอ่ยพลางส่งสายตาดุให้สาวผิวแทนที่ยืนอยู่ข้างๆ
"รับรองค่ะพี่เจ เดี๋ยวเมร์จะพาส่งให้ถึงงงงงง.....บ้านเลยค่ะ" เพื่อนจอมป่วนทำเสียงยียวนก่อนจะบอกลา "ไปแล้วค่ะ พี่เจเดินทางปลอดภัยนะคะ บ้ายบาย"

แม้ว่าใครจะพยายามคุยกับเขาแต่มีนาทีไหนเลยที่เขาจะละความสนใจไปจากสาวน้อยที่ครองหัวใจของเขาอยู่ ณ ขณะนี้
รอยยิ้มสดใสนี้อาจจะทำให้เขาคิดถึงจนแทบบ้าแน่ๆ

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่17

ติ๊งหน่อง..ติ๊งหน่อง..
สาวร่างสูงสะพายเป้ใบย่อมยืนข้างมอเตอร์ไซค์สีแดงคู่ใจ รอเจ้าของบ้านที่นัดไว้มารับอย่างใจจดใจจ่อ
"น้องเจใช่ไหมลูก" เสียงหญิงวัยกลางคนทักขณะที่กำลังเดินใกล้รั้วบ้าน
"ค่ะ เจมาติวหนังสือสอบให้น้องวีน่ะค่ะ" ร่างสูงตอบเสียงนอบน้อม
"เข้ามาก่อนสิ น้องวีกำลังอาบน้ำอยู่ ถ้ายังไงรอน้องสักครู่นะ" นางเอื้อมมือเปิดรั้วบ้านอย่างคล่องแคล่ว ก่อนเดินนำผู้มาเยือนเข้าบ้าน

ตาเรียวภายใต้แว่นตากรอบสีเข้มสะดุดกับสาวน้อยผิวแทนที่เพิ่งจะเดินลงมาจากชั้นบน มินิเดรสสีเหลืองอ่อนดูเบาสบายแบบไร้เดียงสา เจ้าตัวรู้สึกเหมือนโดยตรึงเล็กน้อย.. ไม่มีครั้งไหนเลยที่เค้าจะไม่ใจเต้นแรงเมื่อได้อยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้
"พี่เจมานานยังคะ กินอะไรมาหรือยัง... พี่เจ...พี่เจ" เจ้าของบ้านเรียกซ้ำเมื่อไม่ได้รับคำตอบจากร่างสูงที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
"อ๋อ กินแล้วค่ะ" เสียงหวานตอบสั้นๆ
"งั้นไปข้างบนเลยแล้วกันเนอะ ไม่อยากเลิกดึก" มือเล็กคว้าแขนกึ่งจูงอีกคนตามขึ้นไปบนห้อง

จิราภัทรตั้งใจติววิชาที่เธอถนัดอย่างเอาจริงเอาจัง แม้ว่าบางครั้งสติเธอไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อร่างเล็กกว่าเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ พร้อมกลิ่นแชมพูอ่อนๆจากผมที่ยังคงชื้นอยู่
"วี หลังจบม.6 ตั้งใจจะเรียนคณะอะไรหรอ" เขาเลือกที่จะเปลี่ยนบทสนทนาอังแทนเคร่งเครียดมาเป็นเรื่องที่เขากังวล
"วียังไม่ได้คิดเลยอ่ะ แต่คิดว่าน่าจะตามที่เจไปเชียงใหม่... ดีไหมล่ะ" ดวงตากลมขี้เล่นมองเขาอย่างแน่วแน่ "แต่ถึงอย่างนั้น พี่เจก็กลับมาหาวีบ้างนะช่วงปิดเทอม"

มือเรียวเลื่อนไปกุมมือเล็กเข้าไว้ด้วยกันอย่างนุ่มนวล ก่อนจะเลื่อนมือนั้นขึ้นมาประทับที่ริมฝีปาก
ตาเรียวชายมองนาฬิกาที่บอกเวลาสี่ทุ่มครึ่ง "พี่กลับแล้วดีกว่า ดึกแล้ว วีจะได้นอน" พลางลุกขึ้นเตรียมจัดของใส่กระเป๋าเป้
วริณเดินไปหาจิราภัทรที่กำลังเก็บของอยู่ไม่ไกล และคว้ามือเรียวขึ้นมากุมไว้อย่างมาดมั่นก่อนจะวางมือของเขานั้นไว้ตรงอกข้างซ้ายของเธอ

"หัวใจของวีเต้นแรงมากเวลาที่พี่เจอยู่ใกล้ วีชอบพี่เจมาก มากจนไม่แน่ใจว่าใช่รักหรือเปล่า ถึงแม่เราจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่...." น้ำเสียงนั้นเริ่มแหบพร่าและสะดุดไป เธอเงยหน้ามองเขาที่ก็กำลังมองเธออยู่เช่นกัน "ขอบคุณนะคะ ที่เป็นแฟนที่น่ารักมาตลอดเลย..." ผิวแทนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู เธอเลื่อนมือเขาลงมาสัมผัสหน้าอกของเธอแบบเต็มมือ และเริ่มพามันขยับเวียนวน จากมือแข็งเกร็งกลายเป็นนวดคลึงไปตามจังหวะที่เธอกำหนด เธอเงยหน้าขึ้นส่งสายตาเว้าวอนให้เขา ก่อนที่เขาจะเลื่อนหน้าลงมาประทับริมฝีปากอิ่มของเธอ และเริ่มบรรเลงเพลงรักจังหวะช้า ช่างนุ่มนวลพาเคลิบเคลิ้ม

"ค้างที่นี่ไหม" เสียงใสถามอย่างเว้าวอน "อีกไม่นานพี่เจก็ต้องย้ายไปเชียงใหม่แล้ว.. คิดถึงแย่เลยนะคะ"
"กลัวจะไม่มีเวลาคิดถึงน่ะสิ ไม่รู้จะต้องปรับตัวนานแค่ไหน" ปากนุ่มบรรจงจูบที่หน้าผาก นิ้วเรียวปัดปอยปมที่บดบังแก้มนวลของวริณ
"พี่กลับแล้วดีกว่าดึกแล้ว เดี๋ยวแม่วีจะว่าเอาได้"
"โอเคค่ะ" มันไม่ได้โอเคจริงๆหรอก...เฮ้อออ



วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่ 16

"เลิกเรียนแล้วเราไปดูหนังกันนะวี มีเรื่องนึงพี่อยากดูมากเลยอ่ะ"
"ค่ะ..ว่าแต่หนังอะไร"
"หนังรักค่ะ" คนตัวสูงกระซิบข้างหูหยอกหยอกคนตัวเล็กกว่าจนแก้มแดง

โรงหนังวันนี้ค่อนข้างบางตา อาจเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์และไม่ใช่วันที่ลดราคา
หลังจากซื้อตั๋วหนังและขนมพอสมควรก่อนเข้าโรงหนัง
ทั้งสองนั่งประจำที่ งั่ม..งั่ม.. เสียงเคี้ยวข้าวโพดคั่วดังหงุบหงับอย่างต่อเนื่องทำเอาเจ้าของที่ถืออยู่ส่งค้อนวงใหญ่ให้แม้ในแสงสลัว แต่ก็ยังเห็นชัดเจน
"พี่เจคิดจะแย่งวีกินหมดเลยใช่ไหมเนี่ย"
"ก็ของวีอร่อย" พูดพลางหยิบกินหน้าตาย
"พอได้แล้ว วีกินของพี่เจไม่ได้ ไม่แฟร์เลย" ปากอิ่มเบะออกเชิง
"อ่ะ พี่แบ่งให้"
"ไม่ค่ะ วีไม่กินรสชีสอ่ะ"
"อ้าว พี่ไม่รู้นินา แต่รสหวานของวีอร่อยดีนะ คราวหน้าพี่คงต้องซื้อกินเองบ้าง...เพราะคนแถวนี้ขี้งกจริงๆ"
"งั้นเอาน้ำของพี่เจมาเลย" มือเล็กเอื้อมสุดแขนคว้าแก้วน้ำอัดลมที่อยู่อีกฝั่งของคนนั่งข้าง แต่ก่อนจะเอื้อมถึง มือเรียวกลับยกขึ้นดื่มแล้วกางแขนออกให้ไกลไปอีก
"พี่เจ!" เธอดุเบาๆ
"มานี่ พี่จะบอกอะไรให้" พลางกระดิกนิ้วให้สาวน้อยยื่นหน้ามาฟังใกล้ๆ
ริมฝีปากบางประทับเข้ากับอีกริมฝีปากอย่างนุ่มนวลเพียงครู่เดียว ทั้งคู่จำต้องผละริมฝีปากออกเพื่อลุกขึ้นยืนเมื่อเพลงประจำชาติดังขึ้น

สาวน้อยแก้มร้อนผ่าว แม้เธอจะเคยถูกกระทำมากกว่านี้แต่มันก็ไม่เคยทำให้เธอหายเขินเวลาที่เขาชิดใกล้ได้เลยสักครั้ง
"แก้มนุ่มจัง" เสียงแผ่วกระซิบดังพอได้ยินเพียงสองคน ทำให้คนฟังนั่งตัวแข็งไม่กล้าขยับแม่แต่ปลายเส้นผม
มือเรียวกุมมือเล็กไว้หลวมพอให้ไม่อึดอัดแต่ส่งไปถึงความรักและความห่วงใย เฉียกเช่นฉากรักฟวานซึ้งบนจอกว้างเบื้องหน้า

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่15

โรงอาหารยามนี้คึกคักกว่าปกติเนื่องจากทางโรงเรียนได้เปิดโปรแกรมสองภาษา ทำให้มีนักเรียนมากกว่าที่เคย
มือเล็กถูกรวบไว้ด้วยมือเรียวนุ่มของผู้มาเยือน สองสาวยืนข้างกันมือประสานข้างลำตัวระหว่างเข้าแถวรอซื้อน้ำอัดลม
"ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย" เจ้าของนิ้วเรียวเอ่ย เมื่อเห็นว่าแถวยาวมากเกินกว่าจะทนรอไหว "นะ ปวดจะแย่แล้ว"
"ไม่ไหวเลยหรอคะ" เธอได้รับพยักหน้าแทนคำตอบ ไม่ทันได้พูดต่อมือเรียวก็ดึงเธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล
'แอ๊บแอ๊...แอ๊บแอ๊..' เสียงตุ๊กแกร้องดังชัดในห้องน้ำ สองสาวกรี๊ดระงมกอดกันแน่นด้วยความตกใจ ไม่รู้ใครปลอบใครหรือใครกลัวกว่ากันเวลานี้
ทันทีที่สติกลับคืนคนตัวสูงรีบพาร่างเล็กวิ่งออกจากบริเวณนั้นโดยเร็วที่สุด

ร่างสูงก้มลงมาหอมแก้มอีกฝ่ายเมื่อสังเกตุว่าไม่มีใครผ่านมาแถวนี้
"เฮ้ย!!" มือเล็กปิดแก้มทันทีด้วยความตกใจ "พี่เจอ่ะเล่นอะไรแบบนี้ วีตกใจหมด"
"พี่หอมเรียกขวัญที่เจอตุ๊กแกไง ตอนนี้ขวัญพี่กลับมาแล้ว ขอบคุณนะ" ตาเรียวหรี่มองมีแววขี้เล่น
"พี่เจสอบได้ที่ไหนหรอคะ" วริณเลือกจังหวะนี้ถามเพราะตั้งแต่เขาไปสอบตรงมา ก็ไม่ได้พูดถึงอีกว่าได้หรือไม่ได้หรือได้คณะอะไรที่ใด
"เดี๋ยวผลออกแล้วจะบอกนะ" เขาตอบคำถามเสียงเรียบ
"พี่เจ.. ผลออกแล้วไม่ใช่หรอ วีเห็นรุ่นพี่บางคนเขาไปฉลองกันแล้วนะ" เธอแน่ใจว่าเขาตั้งใจปิดบัง
.... บรรยากาศเงียบชั่วอึดใจ ดวงตาเรียวตอนนี้ไม่ฉายแววดีใจหรือเสียใจ แต่กลับดูกังวลจนอีกฝ่ายสังเกตเห็นได้
"มีอะไรหรือป่าวคะ" เธอถาม
"พี่ได้คณะและมหาลัยตามที่พี่เคยหวังไว้ แต่ตอนนี้พี่ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่แล้ว" เขายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะขยับไปนั่งม้านั่งตัวยาวที่อยู่ไม่ไกล
"ทำไมล่ะ"
"ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่า.. พี่ได้เรียนที่ม.ช.ละกัน" เขายังคงตอบเสียงเรียบ
"เฮ้ยเจ๋งอ่ะ ดีใจด้วยนะคะ อย่าเครียดเลย ได้คณะกับมหาวิทยาลัยที่ต้องการก็ควรจะดีใจไม่ใช่หรอ!" เธอตื่นเต้นทั้งให้กำลังทั้งที่ไม่รู้เลยว่าอะไรที่อยู่ในใจของเขา "กลัวอะไรหรือป่าว"
"พี่ต้องไปอยู่เชียงใหม่ กลัวคิดถึง.." เขาจ้องมองดวงหน้าของเธออย่างพินิจ นี่มันเพิ่งเริ่ม..แล้วก็ต้องห่าง ให้ตายเถอะ..เขารู้สึกว่ามันเร็วไปจริงๆ
"โถ่..เรื่องแค่นี้เอง งั้นวีจะตามไปติดๆเลยดีไหม ปีหน้าก็ม.6ละ แป้บเดียวเอง" เธอทำหน้าตาสดใส แววตามาดมั่นว่าต้องทำได้อย่างที่พูดแน่นอน
มือเล็กถูกรวบมากุมไว้ แววตากังวลนั้นเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน เขาไม่รู้เลยว่าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...






วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่14

"เป็นแฟนกับพี่ไหม" เสียงหวานกระซิบแผ่วข้างหู ดังพอให้เธอได้ยินอย่างชัดเจน
"ค่ะ..พี่เจ"
ทั้งสองร่างเปลือยนอนเสียดสีกัน เหลือเพียงกางเกงในชิ้นน้อยที่ปิดบังจุดซ่อนเร้นของทั้งคู่ไว้ ร่างสูงยังคงละเลงลิ้นอยู่ที่เนินอกอวบแน่น ทั้งจูบ ทั้งเลีย ทั้งดูด ทั้งบีบเบาๆ ทำเอาร่างเล็กกว่าสะท้าน แอ่นรับตามจังหวะและกระชับศรีษะของเขาไว้ที่หน้าอกของเธอประหนึ่งกลัวว่าเขาจะหยุดมอบสัมผัสอันแสนสุขนี้
มือเรียวเลื่อนขอบกางเกงในของเธอลงทีละน้อย อีกมือล้วงล้ำเข้าไปผ่านเส้นขนบางเบาถึงติ่งเสียว ซึ่งยามนี้ถูกหล่อเลี้ยงด้วยน้ำหล่อลื่นธรรมชาติของเธอ พี่อยากสัมผัสมากกว่านี้แล้ว..
เขาเลื่อนตัวไล้ริมฝีปากตามร่างกายของเธอผ่านใต้เนินอกใหญ่.. เอวเล็ก.. หน้าท้องเรียบ.. ไรขนบางที่ปกคลุมเนินสวาท.. เขาขยับมองเนินนั้นอย่างพิถีพิถันก่อนจะใช้ลิ้นเลียลิ้มรสที่ติ่งเล็กตรงกลาง ลิ้นนุ่มขยับรัวตวัดไปมาตามจังหวะเคลื่อนตัวของอีกฝ่าย สอดลิ้นเข้าไปในร่องลับและเน้นดูดเป็นจังหวะ มือหนึ่งนวดคลึงที่อกเต่งตึงและลูบไล้ไปทั่วร่างกาย เธอได้แต่เม้มริฝีปากอิ่มของตัวเองไม่ให้เสียงครางเล็ดรอดออกมา ร่างของเธอสั่นสะท้านและเกร็งด้วยความเสียวที่เขามอบให้ ปลายนิ้วเรียวหยุดที่ร่องรูสวาท เขี่ยคลึงไปพร้อมกันลิ้นรัว น้ำหวานเลอะเยิ้มทั่วร่อง เขาสอดปลายนิ้วเข้าไปอย่างใจเย็น
"อ๊า.." เสียงครางแผ่วเบาเมื่อถูกนิ้วสอดเข้าไปในร่องเปียก และคราวในละคอมากขึ้นเมื่อเขาเริ่มชักนิ้ว เข้าออก-เข้าออก-เข้าออก สายตาของเขามองมายังใบหน้าของเธอที่กำลังเหย๋เกและร่างกายที่ขยับตามจังหวะที่เขามอบให้ จิราภัทรขยับลิ้นเลียไล้ขึ้นมาพ้นจากเนินสวาท จูบและดูดและค่อยๆลิ้มรสหวานจากผิวเนียนขึ้นมาจนถึงอกใหญ่น่าดูด อีกมือยังคงบีบคลึงหน้าอกนั้นและเริ่มประกบปากกับเม็ดกลมเต่งที่ตั้งยั่วยวนเขา เขาทั้งดูดทั้งเลียและขบที่หัวอย่างเอร็ดอร่อย มือของเธอลูบไล้ตามหลังของเขาเลื่อนมาจนกระชับหลังคอให้หน้าเขาบดเบียดกับหน้าอกของเธอ เธอขยับกายยั่วยวนเขาและตามจังหวะรักที่เขามอบให้ เสียวเหลือเกิน.. เขาซอยนิ้วเร่งจังหวะเมื่อเห็นอาการของเธอใกล้จะถึงจุดหมาย ดูดเน้นเพิ่มความเสียงที่หน้าอกแล้วเลื่อนมาแลกลิ้นที่หวานและดูดดื่มให้กับเธอ จนเธอขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกับความพึงพอใจของเขา
มีความสุขจังเลยค่ะ เธอพูดในใจแต่ได้มอบจูบหวานให้เขาเป็นการตอบแทน


วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่13

ท่ามกลางสนามหญ้าเขียวชะอุ่มหลังฝนตก ชิงช้าตัวน้อยแกว่งไกวตามแรงส่งของคนนั้งเหม่อลอยไปไกลแสนไกล เธอยังนึกถึงคืนนั้นเสมือนว่าเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง พวงแก้มระเรื่อด้วยเลือดสูบฉีดและร้อนผ่าวทุกครั้งที่หวนนึกถึง
อีกสัปดาห์ก็จะถึงวันเปิดเทอมแล้ว จะได้เจอเขาอีกไหมนะ..

"วีลูก เพื่อนมาหา" หญิงสูงอายุส่งเสียงจากครัวหลังบ้านถึงเธอ
"ค่ะแม่" สาวน้อยในกระโปรงพลีทสีหวานตอบรับและรีบเข้าบ้าน ด้วยความสงสัย..ใครมานะ ทำไมไม่โทรบอกก่อน

'ใคร' ที่เธอบ่นถึงนั่งนิ่งอย่างเรียบร้อยบนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น เธอชงักเล็กน้อยเมื่อเขาคือ'เพื่อน'คนที่เธอนึกไม่ถึง
"พี่เจมาได้ไงคะ?" เธอถามเจ้าของกรอบแว่นบางด้วยความตกใจ
"คิดถ..เลยมาหา" สายตาอ่อนโยนทำเอาคนฟังเขินแทบแย่
"แม่คะ วีพาเพื่อนไปข้างบนนะ"  เธอกล่าวบอกมารดาก่อนจะคว้ามือเรียวพาขึ้นไปคุยส่วนตัวที่ห้องอย่างรวดเร็ว

"ทำไมไม่บอกก่อนว่าจะมาที่บ้าน" เจ้าของบ้านกล่าวทันทีที่ปิดประตูห้องเรียบร้อย
ร่างสูงรุดเข้าประชิดจนหลังอีกฝ่ายถอยจนติดผนัง ดวงตาเรียวบัดนี้เป็นประกายเจ้าเล่ห์ชัดเจนก่อนจะหัวเราะเสียงดัง
"พี่แค่แกล้งเล่นน่ะ ไม่คิดว่าจะตกใจขนาดนี้" ร่างสูงผละออกเล็กน้อยก่อนจะมีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าเรียว
คนตัวเล็กกว่าเดินตามและนั่งบนที่เตียงไม่ห่างออกไปนัก
"จำคืนนั้นได้ไหม.." เขาถามเธอทั้งที่ยังหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง "พี่คิดถึงเรื่องคืนนั้น" คนฟังหน้าร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่ได้ จำได้สิ..จูบนั้น เธอได้แต่คิดในใจ

จิราภัทรสาวเท้ายาวถึงเจ้าของบ้านที่อยู่บนเตียงและนั่งข้างอย่างถือวิสาสะ สายตากวาดมองรูปหน้างามที่อยู่ตรงหน้าอย่างพิถีพิถัน ตากลมที่ตราตรึงหัวใจของเขาและริมฝีปากนุ่มที่ทำให้เขาถวิลหา จนมาปรากฏตัวที่นี่
ปากเรียวเม้ม ช่างใจเล็กน้อยก่อนจะขยับเข้าไปใกล้และประทับริมฝีปากอิ่มของสาวน้อยตรงหน้า
เธอยอมรับสัมผัสรสละมุนที่เขามอบให้อย่างเต็มใจ
มือเรียวขาวไล้สัมผัสเรียวขาเนียนแผ่วเบา ค่อยๆเคลื่อนเข้าไปใต้กระโปรงพลีทสีหวาน ลิ้นนุ่มถูกสอดเข้ามาทักทายอีกลิ้นด้านใน ทำเอาอีกฝ่ายเคลิบเคลิ้มตามสัมผัสหัวใจเต้นแรง
เสียงครางในลำคอแผ่วเบาเป็นระยะตามความพึงพอใจในรสสัมผัสและความต้องการของวรินที่มีมากขึ้น เขาถอนจูบชั่วขณะพินิจใบหน้าของเธอก่อนมือเรียวจะเลื่อนแว่นกรอบบางออกแล้วเริ่มระดมประทับริมฝีปากตามร่างกายของเธอ เริ่มจากลำคออย่างช้าๆค่อยๆเคลื่อนลงไป มือหนึ่งสัมผัสที่ต้นขา นิ้วลูบเล่นตามเนื้อผ้าคอดต้อนตัวจิ๋วที่ปิดบังเนินอวดใต้กระโปรง อีกมือค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเปิดทางให้เขาได้เลื่อนริมฝีปากมาถึงเนินอกอวบอิ่มที่ดูจะใหญ่กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน
ร่างเล็กขยับยืดตัวขึ้นยืนด้วยเข่าบนที่นอนให้เขามอบสัมผัสให้เธอได้ถนัดเน้นยิ่งขึ้น เธอกอดกระชับที่คอให้เขาได้สัมผัสที่หน้าอกอย่างพึงพอใจ "พี่ขอได้ไหมคะ.." เขาขออนุญาตเมื่อคิดที่จะล่วงล้ำเข้าไปในส่วนต้องห้ามที่อยู่ปลายนิ้ว เธอได้แต่พนักหน้าตอบพร้อมเสียงครางเบาในลำคอ "อย่าเสียงดังนะคะ" อีกเรื่องที่เขาขอและเธอพนักรับยอมทำตามแต่โดยดี

เสื้อบางถูกปลดออกเผยเพียงแค่เสื้อชั้นในสีขาวลูกไม้น่ารัก เนินออกกลมกลึงถูกดันจนชิดใหญ่แทบล้นออกมา เซ็กซี่เย้ายวนจนเขามิอาจห้ามใจมอบสัมผัสนุ่มที่เนินอกนั้น ทั้งจูบทั้งดูดเน้น มือเขาเอื้อมปลดตะขอเสื้อชั้นในและเนินอกเปล่าเปลือยใหญ่กว่าฝ่ามือเม็ดเล็กที่ปลายยอดแข็งชูชัน ร่างที่กำลังขยับราวกลับกำลังเชิญชวนให้เขาสัมผัสลิ้มรส ทันทีปลายลิ้นแตะสัมผัสเม็ดเล็กบนยอดปานสีอ่อน ทำเอาเธอสะดุ้งแอ่นรับปลายลิ้นซุกซนอย่างพอใจ
มือเรียวเขี่ยสัมผัสติ่งน้อยที่ร่องลับภายนอกผ้าคอตต้อนเนื้อบาง ลูบไล้ขึ้นลงตามรอยแยกนั้นจนได้สัมผัสความเปียกชื้นที่ค่อยๆซึมออกมา
และนั่นทำให้เขายิ่งเขี่ยเน้นที่ติ่งมอบความเสียวซ่านให้ร่างเล็ก เสียงครางในลำคอทำให้เขาพึงพอใจยิ่งนัก ให้ตายเถอะ..เขาหยุดไม่ได้จริงๆ


วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่12

ห้องสีเหลี่ยมที่ถูกตกแต่งอย่างดียามนี้มีเพียงแสงสลัวจากสนามสาดส่องเข้ามาให้เห็นภายในห้องรำไร
สองสาวต่างนอนหันหลังให้กันบนเตียงนอนนุ่มขนาดใหญ่ ทั้งคู่ต่างคิดถึงบทสนทนาที่เพิ่งผ่านพ้นก่อนแยกย้ายกันเข้านอน บางอย่างที่อยู่ในดวงตาเรียงของเขา และบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้ดวงตาอันขี้เล่นคู่นั้น

เวลาผ่านไปน่าจะเกือบชั่วโมงโดยไม่มีใครขยับกายเลยแม้แต่น้อย วรินก็รับรู้ถึงการขยับเปลี่ยนท่านอนของอีกคนและความกังวลก็คลายลงด้วยเช่นกัน
มือเรียวขยับเข้ามาโอบเอวเธอจากด้านหลัง ลมหายใจแผ่วเบาก็กำลังรินรดบริเวณท้ายทอยของเธอ รอยยิ้มเล็กเกิดขึ้นที่มุมปาก วงแขนที่โอบรอบเอวทำให้เธอรู้สึกประหม่าแต่อบอุ่นไม่น้อยเลยทีเดียวถึงแม้ว่าเขาอาจจะแค่นอนดิ้นมาเท่านั้นเอง

เมื่อทุกอย่างเข้าสู่สถานการณ์ปกติแม้จะอยู้ในอิริยาบทเดิม วรินตัดสินใจค่อยๆพลิกตัวไปเผชิญกับในหน้าที่อยู่ใกล้ชิดนั่น
ตาเรียวตอนนี้ปิดสนิท รูปหน้าอิ่มไร้กรอบแว่นยามนี้เหมือนคนกำลังอยู่ในห้วงฝันดีนั้น เย้ายวนน่าหลงไหลเหลือเกิน

วรินค่อยๆเลื่อนหน้าอย่างช้าๆประทับริมฝีปากกับเขาแผ่วเบา เธอมองคนเบื้องหน้าอย่างพิจารณาและประทับจูมพิศอีกครั้งให้อีกคนที่กำลังฝันดีได้ฝันดียิ่งขึ้นไปอีก หากแต่อีกฝ่ายกลับลืมตาขึ้นมาขณะที่เธอกำลังจะละริมฝีปากจากเขา
เธอตาโตอย่างตกใจของคนที่แอบลักสำผัสริมฝีปากจิราภัทรที่กำลังหลับ ใบหน้าเธอร้อนผ่าวด้วยความอายและรู้สึกผิด ไม่กลาสบตาแม้ในเงาสลัวของห้อง
จิราภัทรยิ้มมุมปากหลังจากได้รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายที่เขาไม่แน่ใจจากสายตาที่ประสานกันก่อนหน้านี้และทำให้เขาแน่ใจว่า สองหัวใจนั้นตรงกัน ใบหน้าเรียวขยับเข้าใกล้หวังจูมพิศปากอิ่มของคนที่หลบตา ริมฝีปากสัมผัสนุ่มละมุนอย่าทะนุถนอม และย้ำสัมผัสอีกครั้งเพื่อให้อีกฝ่ายแน่ใจ และอีกครั้ง..

เมื่อสองหัวใจตรงกันจูมพิศอันแสนหวานและเนิ่นนานทำให้หน้าของสาวน้อยร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง เธอเผยปากรับรสสัมผัสนุ่มนวลอย่างเต็มใจ..
ลิ้นละมุนถูกแทรกผ่านริมฝีปากเข้ามาเชื่องช้า ค่อยๆเคลื่อนขยับเข้ามาทำความคุ้นเคย แลกลิ้นสินะ...

มือเรียวเริ่มลูบไล้เรือนร่างจากภายนอกเสื้อผ้าของเธอจากกลางหลังขึ้นไปช้าๆจนโอบแก้มเธอไว้เพื่อประทับจูบแสนหวานให้อิ่มเอม
และเลื่อนลงอีกครั้งเพื่อสอดมือเข้าไปใต้ร่มผ้าสัมผัสเอวเล็กและแผ่นหลังเนียนอย่างพอใจ
"พี่ชอบวีนะคะ" กลิ่นลมหายใจที่พ่นรดกันประกอบกับเสียงกระซิบแผ่วเบาตอนนี้สร้างอารมณ์เย้ายวนให้เธอยิ่งนัก
"วีก็ชอบพี่เจเหมือนกันค่ะ" เธอตอบเสียงอ่อนบาง และเขาเริ่มประทับริมฝีปากและจุมพิศรักแสนหวานก็บรรเลงต่อไปเนิ่นนาน ก่อนจะจบไว้ที่กอดอบอุ่นใต้ผ้าห่มหนานั่น

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่11

ฮัชชุ่วว..ฮัชชุ่ว.. เสียงจามลอยมาหลังจากวริณเดินออกมาจากห้องน้ำ ต้นเสียงยังคงจามและนั่งอยู่บนเตียงกว้างไม่ห่างออกไป

ห้องเตียงเดี่ยวอันกว้างขวางบัดดนี้ดูแคบขึ้นมาถนัดตาเมื่อใจของวริณไม่สามารถสงบลงได้เพราะร่างเรียวที่กำลังเช็ดผมอยู่นั้น
"ไดร์ผมดีไหมคะ" เธอเสนอด้วยความหวังดีพร้อมกับส่งสายตาหาตำแหน่งของอุปกรณ์ที่ว่า
"พี่ไม่ชอบไดร์ผมอ่ะ เสียงดังแถมผมเสียด้วย" คนนั่งเช็ดผมทำจมูกฟุดฟิด "ช่วยพี่เช็ดผมหน่อยได้ไหมคะ" สายตาน่าเอ็นดูเว้าวอน
"ค่ะ" มือเล็กคว้าผ้าเช็ดผมที่แห้งสนิทสองผืนจากตู้ยื่นให้เขาหนึ่งผืน ก่อนจะเริ่มเช็ดผมให้อีกฝ่าย เธอยืนเก้ๆกังๆไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน
มือเรียวเอื้อมจับแขนเธอก่อนจะวางมันไว้ตรงกับปลายผมด้านหลัง
ชุดนอนของเขาแม้จะเป็นเสื้อคอกลมธรรมดาแต่บัดนี้ต้นคอที่เห็นพ้นเสื้อนั่นช่างเย้ายวนเหลือเกิน

วรินขยับเข้าไปใกล้จนหน้าอกอวบของเธอทาบสมผัสกับแผ่นหลังของเขาอย่างตั้งใจ ที่นอนอันยวบยาบทำให้การเคลื่อยขยับตัวเป็นไปอย่างไม่สะดวกนัก เขาคงไม่รู้ว่าฉันอ่อยใช่ไหม..
"น้องวีมีแฟนไหมคะ" ความเงียบถูกทำลายด้วยคำถามจากเสียงหวานจากคนข้างกาย
"ไม่มีค่ะ"
"อ้าวหรอ นึกว่าคนที่..."
"ไม่มีแฟนจริงๆค่ะ เพื่อนเฉยๆ" เธอรีบตอบปฏิเสธ เกรงว่าอีกคนจะเข้าใจผิด
"หรือว่าน้องวีไม่ชอบผู้ชาย" คำถามนี้ทำให้คนฟังได้แต่นิ่ง ไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ยอมรับ
"..."
"พี่ล้อเล่นน่ะ ดูทำหน้าเข้า" จิราภัทรหัวเราะพลางหันหน้ามองวริณตรงๆและขยับให้เช็ดผมโดยง่าย
"แล้วพี่เจล่ะคะ ไม่ชอบหนุ่มๆคนไหนบ้างหรอ น่ารักขนาดนี้" เธอถามกลับด้วยความอยากรู้แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมากมายให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความสนใจนี้
"ไม่หรอกค่ะ..คือ" คนตอบเว้นจังหวะ ลังเลว่าจะตอบไปตรงๆดีหรือไม่ หากเกรงว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกกับตนเปลี่ยนไป
เจ้าของผิวแทนได้แต่รอฟังคำต่อมาแทบลืมหายใจ
"พี่ไม่ชอบผู้ชายน่ะ..พี่ชอบ..." เขาเงยหน้าเมื่อสิ้นเสียง สายตาประสานกันโดยบังเอิญแต่เหมือนมีความหมายบางอย่างที่เขายังไม่แน่ใจ
"ผมหมาดเกือบแห้งแล้ว นอนกันเถอะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าอีก" สาวน้อยเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อรับรู้บางอย่างจากสายตาคู่เรียวนั้น เธอไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกเหมือนเธอหรือไม่ วีชอบพี่เจ


วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่10

"ไประยองด้วยกันไหม"
อีกสามวันจิราภัทรจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆในรุ่นเพื่อส่งท้ายก่อนจะต้องเตรียมตัวอย่างหนักเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เขาเอ่ยชวนวริณทางโทรศัพท์หลังจากสรุปกับเพื่อนๆแล้ว
"พี่เจไปกับเพื่อนๆเถอะ มีแต่รุ่นพี่ วีไม่รู้จักสักคน"
"วีไม่อยากหรอ"
"..." ถึงแม้จะไปกันกลุ่มใหญ่แต่เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร
"เพื่อนพี่ไม่ว่าหรอก เขาบอกว่าพาเพื่อนพาแฟนไปได้"
สาวน้อยแอบเขินกับคำว่าแฟนที่เธอได้ยิน แม้จะไม่ได้เจาะจงและยังไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆคืบหน้ามากไปกว่ารุ่นน้องคนหนึ่ง
"โอเคค่ะ วีไป..แต่ถ้าวีทำให้ไม่สนุกอย่าว่ากันนะ" เธอตอบน้ำเสียงเรียบ เก็บกลั้นความตื่นเต้นและดีใจที่แทบจะทะลุออกมาเต้นไว้ข้างในอย่างแนบเนียน

รีสอร์ทขนาดเล็ก สวยร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีบ้านพักแยกเป็นหลังๆล้อมรอบสระว่ายน้ำ หาดทรายขาวตัดกับน้ำทะเลสีมรกตอยู่ห่างจากวิลล่าทั้งหลายเพียงไม่กี่ก้าวเดิน ทำให้คนที่ตัดสินใจมารู้สึกถ้าไม่ได้มาคงจะเสียใจจริงๆ
เราทั้งหมดอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 หลัง เป็นบ้านแบบ 2 ชั้นและมี3ห้องนอน
"โชคดีจังได้พักห้องเดียวกับพี่เจ" วริณเอ่ยอย่างสดชื่นหลังจากรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนเกินตลอดการเดินทาง
"พี่ชวนวีมา พี่ก็ต้องรับผิดชอบสิคะ" มันก็จริงอย่างที่เขาว่า
"วีชักรู้สึกว่าเป็นภาระแล้วสิ" คนฟังแอบน้อยใจ
"ถ้าพี่คิดว่าเป็นภาระ พี่ก็คงไม่ชวนมา แต่นี่พี่ชวนมาแล้วก็อย่าคิดมากสิ ทำตัวให้สนุกดีกว่า" ดวงตาเรียวหลังกรอบแวนบางฉายแววเปล่งประกาย ให้อีกฝ่ายเชื่อตามที่เขาพูด
"รีสอร์ทของเพื่อพี่เจสวยจังเลยนะคะ" เธอพูดขณะที่สำรวจบริเวณต่างๆในห้องและหยุดมองออกไปนอกระเบียง
"วีตามสบายนะ เดี๋ยวพี่ลงไปดูเพื่อนๆก่อน เห็นว่าจะบาบีคิวกันริมสระเย็นนี้" ประโยคนี้ทำให้คนยืนมองทะเลถึงกับตาวาว แล้วรีบเดินตามร่างสูงออกไปทันที

อาหารทะเลสดจำนวนมาก ทั้งกุ้ง ปู ปลาหมึก หอยต่างๆ ปลา สดดั่งเพิ่งกระโดดออกมาจากทะเลเมื่อไม่กี่นาทีนี้ ถูกเตรียมสำหรับค่ำคืนบาบีคิวอาหารทะเลริวสระน้ำทรงอิสระที่มีลูกโป่งน้อยใหญ่สีสันสดใสลอยกระเพื่อมตามคลื่นน้ำ
โต๊ะอาหารถูกจัดเป็นโต๊ะยาวสำหรับ 10 คนจำนวน 3 โต๊ะ เครื่องดื่มจัดเตรียมเป็นบาร์เล็กๆไม่มีขาด เครื่องเสียงขนาดย่อมเริ่มคลดเสียงเพลงเบาๆ เตาย่างถูกแยกออกไปไม่ไกลนัก
อาหารบางส่วนถูกแยกออกไปจัดเตรียมในครัวและเริ่มทยอยออกมาเสิร์ฟ

วริณรู้สึกแปลกแยกเมื่อเธอไม่รู้จักใครเลยนอกจากพี่เจและพี่ออยเจ้าของสถานที่ ที่พอได้คุยกันบ้างระหว่างเดินทาง เธอจึงปลีกตัวไปยืนหน้าเตาย่างและเริ่มย่างอาหารทะเลอย่างเก้ๆกังๆ
"มัวแต่ย่างได้กินบ้างหรือยังเนี่ย" เสียงหวานถามห้าวเมื่อก้าวเข้ามาใกล้ ยื่นหน้าทำจมูกย่น "ไหม้หรือป่าว"
"พี่เจ!! วีจะย่างๆๆๆแล้วให้เพื่อนพี่เจกินให้หมดเลย หาว่าของวีไหม้" คนตัวเล็กพูกพลางส่งค้อนวงใหญ่ไปให้
"เอ้านี่" คนถูกค้อนยื่นส้อมที่เสียบปลาหมึก หวังจะป้อน แต่หากคนถูกป้อนยืนนิ่งไม่พูดจา "ก็เห็นมือเลอะเทอะ เลยช่วยไงคะ" เจ้าของนิ้วเรียวเสริมอีก เธอจึงยอมอ้าปากรับอาหาร
"อร่อยไหม"
"อืม"
"ถ้าไม่อร่อยก็บ่นไม่ได้นะ เพราะตัวเองย่างเอง"
ซักพักเธอก็กลับเข้ามานั่งร่วมวงสนทนาและทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยจนเริ่มอิ่ม

กิจกรรมต่างๆดำเนินไปอย่างสนุกสนาน มีทั้งกลุ่มนั่งดื่ม กลุ่มเต้น กลุ่มเล่นเกมส์ และกลุ่มสนทนา วริณนั่งมองกลุ่มกิจกรรมอย่างสนอกสนใจ
ตูม..ตูม..ตูม.. เสียงน้ำสาดกระเซนจากการเล่นกระโดดน้ำในสระอย่างสนุกสนาน
"น้องวีมาเล่นน้ำด้วยกันมา" เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งเรียกให้เธอร่วมสนุก และคนอื่นๆที่มองมาที่เธอและโบกมือกันขวักไขว่ชวนเธอลงเล่นน้ำ





วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่9

ตึ๊ง..ตึ๊ง..
'หายหน้าไปหลายวันเลยนะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ' จิราภัทรส่งข้อความมาหลังจากเธอหายไปสองสามวัน
'โกรธอะไรพี่หรือเปล่า หรือว่าไม่สบาย'
'เป็นหวัดนิดหน่อยค่ะ'
'ทานข้าวหรือยัง ทานยาด้วยนะ'
'ค่ะ'
'...'
'ใกล้หายแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง'
'พี่ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นหวัด วันหยุดยาวแบบนี้น้องวีเลยอดไปซ่าที่ไหนเลย'
'ไม่เป็นไรค่ะ'
ครั้งใดที่เธอหวนนึกถึงอ้อมกอดของเขา อาจจะเพื่อปลอบใจให้คลายกังวลแต่สำหรับเธอมันคือกอดในฝัน บรรยากาศแบบนั้นในวันฝนตก หน้าเธอจะร้อนผ่าวขึ้นมาทุกครั้งราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง สามวันแล้วสินะ..

ติ๊งต่อง..ติ๊งต่อง.. ใครกันมากดออดตอนนี้ ไม่มีใครอยู่อบ้านค่ะ เสียใจด้วย เธอบ่นอุบในใจไม่อยากลงไปต้อนรับใครเลย แต่พอเธอมองลอดหน้าต่างออกไปก็พบว่าเป็น 'พี่เจ' ที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน..

"พี่ซื้อข้าวต้มปลามาฝาก กลัวคนป่วยหิวตาย เดี๋ยวพี่จะรู้สึกผิดว่าเป็นต้นเหตุ" ประโยคทักกวนๆแก้เขินที่ตั้งใจมาเยี่ยม
"เข้ามาก่อนค่ะ พี่เจ" เจ้าของบ้านเชิญเสียงเบาบาง
"ไหวไหม..ไปหาหมอไหม" เขาถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย หน้าซีดที่เริ่มแดงระเรื่อตรงหน้าทำให้เขาอดห่วงไม่ได้ จึงยื่นมือไปอังหน้าผากและแก้มเพื่อวัดไข้ หากแก้มนั้นระเรื่อมากขึ้นไปอีก
"ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่มีอะไรพี่เจกลับเลยก็ได้ วีเพลียอยากนอน"
"อ้าวแล้วไม่ทานอะไรก่อนหน่อยหรอ" คนหวังดีรีบทักกลัวอาหารที่ซื้อมาฝากจะเป็นหม้ายเพราะคนป่วยจะหนีไปนอน แต่ก็ไม่เป็นผลคนป่วยยังดื้อเดินขึ้นไปนอน
เขาจึงรีบตามไปคอยดูจนถึงห้องนอน

แสงไฟในห้องสว่างจนแสบตาบ่งบอกถึงเวลาที่ล่วงเลยมาจนมืด วริณถูกห่อด้วยผ้าห่มนวมของเธอและรัดอีกชั้นด้วยแขนของผู้มาเยี่ยมเมื่อตอนเย็น
เขากอดเธอยามหลับ..จนหลับ..
เพียงเงยหน้ามอง ใบหน้าเนียนใสหลับตาพริ้มอยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่เซนติเมตร ทำหัวใจเธอเต้นแรงตึกตัก สมองหยุดสั่งการชั่วขณะ ริมฝีปากชมพูตรงเบื้องหน้าช่างน่าสัมผัสเหลือเกิน
แม้เธอจะไม่เคยลิ้มรสริมฝีปากใดแต่เธอก็ไม่คิดกลัวเลย
จมูกรั้นนั้นอยากเอื้อมแตะแก้มใสแต่ก็กลัวอีกฝ่ายรู้สึกตัวและรังเกียจหากไม่รู้สึกเช่นเดียว เธอคิดอยากฉวยโอกาสแต่ก็ทำได้แค่คิด...


วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่8

สวนสาธารณะวันนี้ผู้คนบางตา อาจจะเป็นเพราะเริ่มบ่ายแล้ว แต่อากาศดีไม่ร้อนมาก
วริณและจิราภัทรต่างเช่าจักรยานคนละหนึ่งคัน ปั่นไปยังจุดต่างๆที่พอจะแวะเก็บภาพสวยๆได้ระหว่างทาง
"แข่งกันไหม ใครถึงตรงนั้นก่อนชนะ" จิราภัทรชี้ไปทางซุ้มขายเครื่องที่อยู่อีกฟาก "คนแพ้จะต้องเลี้ยงไอศรีมนะ"
วริณพยักหน้าหงึกๆพร้อมกับท่าเตรียมพร้อม
"1..2..3!!"

ทั้งสองแข่งกันอย่างสนุกสนานไม่จริงจัง จึงสรุปโดยเสมอกัน แต่ทว่าจิราภัทรเลือกที่จะเป็นฝ่ายเลี้ยงไอศรีม หลังจากใช้กำลังมามาก ทะเลสาปขนาดย่อมก็คือจุดหมายของการนั่งพักเอาแรง
"ทำไมวันนี้พี่เจชวนวีออกมาขี่จักรยาน" วริณทำลายความเงียบด้วยคำถาม
"พี่แค่อยากพักผ่อน แต่ไม่อยากมาคนเดี๋ยว"
"อ๋อให้มาเป็นเพื่อนแก้เหงาว่าอย่างนั้นเถอะ"
"เปล่า..วันนี้วันเกิดพี่น่ะ"
ประโยคหลังทำเอาคนฟังตาโต คิดว่าตัวเองพิเศษแค่ไหนที่ได้อยู่ในวันสำคัญของเขา
"แล้วพี่เจไม่ไปฉลองกับเพื่อนๆหรือคะ" เธอถามมากขึ้น
อีกฝ่ายได้แต่ส่ายหน้า "ไม่ค่ะ วันเกิดก็เป็นแต่วันธรรมดาอีกวันที่เลขบอกอายุมากขึ้นเท่านั้นเอง"
คมนะเนี่ย
"โชคดีนะคะ ที่วันนี้อากาศดีไม่ร้อนมาก เลยขี่จักรยานกันได้ตั้งนาน" เธอเปลี่ยนบทสนทนาที่ดูเหมือนจะเริ่มอึมครึม
"ใช่ แต่ถ้าไมได้ไอศรีมพี่คงแย่" เขาหัวเราะเบาๆ
"เหมือนกันเลยค่ะ"

ขณะกำลังจะกลับเอาจักรยานไปคืน ฝนเจ้ากรรมก็ดันตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งสองลนลานวิ่งหาที่หลบฝน จนได้ตู้โทรศัพท์สาธารณะที่อยู่ไม่ไกลเป็นร่มกำบัง แต่ก็ไม่แย่นัก ทั้งสองยังหัวเราะด้วยความสนุกสนานในตู้โทรศัพท์สองต่อสอง ทั้งคู่เปียกปอนแต่ก็ไม่แย่นัก
จิราภัทรวันนี้ใส่เสื้อยืดสีเข้มกับกางเกงยีนส์ ผมสไลด์ประบ่ายามนี้ทำให้ใบหน้าขาวของเขาเผยผิวใสระเรื่อจากการออกกำลัง สาวน้อยข้างๆได้แต่ยืนมองเขาอย่างละเมียดประหนึ่งเขาอาจจะสลายหายไปกับสายฝน เธอหลงรักเขาจริงๆ
สาวน้อยผิวแทนก็เปียกปอนไม่น้อยไปกว่ากัน ผนที่เปียมากบัดนี้ชุ่มไปด้วยน้ำ เสื้อยืดสีขาวที่เปียกจนเข้ารูปเผยให้เป็นทรวดทรงที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวทำเอาอีกฝ่ายมองจนเกือบลืมคุย
"พี่ว่าแกะปมดีกว่าไหม มันชุ่มมากเดี๋ยวเป็นหวัด" คนฟังเอื้อมมือแกะผมอย่างว่าง่ายแต่ดูแล้วจะไม่ง่ายเลย "มาค่ะพี่ช่วย" เขาเสนอพร้อมเอื้อมมือมาช่วยแกะปมผมที่ตอนนี้พันกันยุ่งเหยิง
เธอหันหลังให้เขาช่วยแกะผมได้ถนัด.. ภาพสะท้อนจากบานกระจกใสทำให้เธอนึกไปถึงฉากโรแมนติกในหนังสักเรื่องหนึ่ง
"ขอบคุณค่ะ" เธอกล่าวขอบคุณเสียงแผ่วเบาขณะที่กำลังพยายามจัดทรงผมที่เปียกไม่ให้ฟูน่าเกลียด
"ฮ่าๆ กลัวไม่สวยหรอ" เขาขำเมื่อเห็นความพยายามของเธอ อีกนัยช่วยลดบรรยากาศอึดอัดในที่แคบๆนี้

กรี๊ดด!! เสียงกรีดร้องดังก้องพร้อมกับเสียงคำรามของฟ้าที่กำลังเทฝนลงมาอย่างหนัก สองมือเล็กปิดหูหลับตาปี๋หลังชิดผนัง ตัวสั่นน้อยๆทำให้เขาช่างเอ็นดูเธอเหลือเกิน
กรี๊ดด!! เขาขยับเข้าไปโอบเธอที่ตัวสูงแค่คางไว้ ลูบหัวให้เธอวางใจว่าเขาจะดูแลเธอ "ไม่เป็นไรนะคะ" เขากระซิบ
เป็นครั้งแรกที่เธอได้กอดจากเขา ถึงเนื้อตัวจะเปียกแต่กลับรู้สึกอบอุ่นไม่น้อยเช่นกัน

จะโทษที่ฝนตกดีไหมนะ..


เรื่องไม่เด็ก ตอนที7

วริณใจหายเมื่อการสอบปลายภาคเรียนที่1กำลังจะเกิดขึ้นในไม่กี่วัน นั่นแปลว่าเธอจะไม่ได้เจอจิราภัทรถึง1เดือน
หลังจากวันนั้นที่สวนสาธารณะ เธอและเขาได้คุยกันมากขึ้นขณะโดยสารรถไฟฟ้ากลับบ้าน และส่งข้อความคุยกันเท่านั้น ไม่มีใครพูดถึงเรื่อง ชอบ อีกเลย

"จะปิดเทอมแล้ว ใจหายจัง" วริณถอนหายใจเบา แต่ดังพอที่คนข้างจะได้ยินมันชัดเจน
"พี่ว่าห่วงเรื่องสอบดีกว่าไหม สอบเสร็จปิดเทอมจะได้หยุดพักผ่อน ดีออก" จิราภัทรเสนอความเห็นในบทสนทนา "หรือวีมีอะไรในใจ"
"ป่าวค่ะ"
"พี่นี่เครียดเลย ปิดเทอมนี้พี่ต้องเตรียมตัวสอบตรงอีก ไม่รู้ปิดเทอมจะได้เรียกว่าปิดเทอมไหม" วริณเงยหน้ามองเจ้าของเสียงด้วยความเห็นใจ
จริงสินะ เขาจะเรียนจบแล้ว..
"พี่เจทำได้อยู่แล้ว สู้ๆนะ วีเอาใจช่วย และถ้ามีอะไรที่วีพอจะช่วยได้ก็บอกนะคะ" เธอให้กำลังใจเขาต่อ
"วี.."
"คะ?"
"พรุ่งนี้วันเสาร์ เราไปขี่จักรยานเล่นกันไหม" เขาเอ่ยชวนเธอเมื่อใกล้ถึงสถานีปลายทาง
"ค่ะ แล้วเจอกัน"
"พรุ่งนี้พี่มารับที่นี่นะ"
"ค่ะ" วริณส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินจากไป คลอดทางที่เดินกลับบ้าน เธอไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย คิดวนเวียนแต่เรื่องวันรุ่งขึ้นที่ยังไม่มาถึง อีกทั้งยังจินตนาการไปก่อนว่ามันจะวิเศษขนาดไหน

คืนนี้เธอตั้งใจจะนอนเร็วเพื่อวันพรุ่งนี้หน้าตาจะได้สดใส แต่จริงแล้วเธอกลับนอนดึกเพราะมัวแต่ตื่นเต้นเลือกชุดที่จะใส่

ทำไมเราถึงชอบพี่เขาขนาดนี้นะ...

วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่6

'พี่เจ กลับบ้านหรือยัง'
'รอรถไฟฟ้าอยู่ค่ะ'
'กลับบ้านคนเดียวทุกวันเลยนะคะ'
'ค่ะ ก็ไม่มีใครอยู่ทางเดียวกันนี่นา'
'เหมือนกันเลย..เบื่อ'
'บ่นอะไร'
'ป่าวค่ะ พี่เจไม่ไปไหนก่อนกลับบ้านบ้างหรือคะ'
"ไม่ค่ะ วีอยากไปไหนหรอ" เสียงหวานกระซิบเบาข้างหู ทำเอาคนฟังขนลุกและใจเต้นแรงไปพร้อมกัน
เธอรีบหันมาด้วยความตื่นเต้นและตกใจ เมื่อครู่เขายังยืนรอรถไฟอยู่ตรงนั้นแล้วจู่ๆก็มายืนอยู่ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิด
"ป่าวค่ะ ก็ชวนคุยไปเรื่อย" เธอตอบคำถาม "รถไฟมาพอดีเลย" แล้วเธอก็รีบเดินเข้ารถไฟโดยไม่สนใจคนเดินตามเลยสักนิด
รถไฟแน่นเหมือนทุกวัน เธอและเขายืนห่างกันแค่กระเป๋านักเรียนกั้นเท่านั้นเอง
"กลับบ้านเวลานี้ทุกวันหรอ" คนยืนติดกันถาม
"ค่ะ" เธอตอบสั้นๆ
"พี่ก็กลับเวลานี้ทุกวันเหมือนกัน" เขาเสริม
"ค่ะ" เธอยังตอบสั้นๆเหมือนเดิม
"โอเค ไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไรค่ะ"
สถานีต่อไป...
"ป่าวค่ะ พี่เจ.." เธอไม่เคยกล้าสบตาหรือพูดคุยกับเขาตรงๆเลยสักครั้ง แม้เธอจะบอกตัวเองอยู่ทุกครั้งว่าเวลาเหลืออีกไม่นาน แต่เธอก็มีความสุขกับการได้รับรู้ความเป็นไปของเขา
"อ้าว พี่เจไม่ลงสถานีนี้หรือคะ" เธอแปลกใจที่เขาไปลงจากรถไฟเมื่อถึงที่หมายประจำของเขา
"ไม่อ่ะ พี่เปลี่ยนใจ.." เขาพูดทิ้งท้ายให้เธออยากรู้ "ไปส่งวีดีกว่า"
เธอต้องหูฝาดแน่ๆ เธอเอาแต่จ้องชายเสื้อของเขาที่หลุดรุ่ยจากกระโปรงนั่นไม่กล้าสบตา
"เป็นอะไรหรือป่าว ปกติไม่ยืนก้มหน้าก้มตาแบบนี้นี่" เขาขยับเข้าไปใกล้และสัมผัสหน้าผากและแก้ม
"วีไม่เป็นไรค่ะ" คนตอบหน้าร้อนผ่าวด้วยความเขิน
"แน่ใจนะ ว่าไม่ได้เป็นอะไร"
สถานีต่อไป...
"ถึงแล้วค่ะ พี่เจส่งแค่นี้ก็ได้ ขอบคุณมากนะคะ" เธอรีบก้าวเร็วๆลงบันไดเพื่อออกจากสถานี
คนเดินตามก้าวเร็วทันกันด้วยช่วงขาที่ยาวกว่า ทำให้เขาสาวถึงตัวเธอได้ในไม่ช้า
"ไปเดินเล่นกันไหม" เขาถามเธอทันทีที่รุดเข้าถึงตัว
เธอยืนแน่นิ่งราวกับกำลังอยู่ในความฝันที่คนที่เธอชอบชวนเธอไปเดท แต่แค่เพียงอึดใจเท่านั้นสติเธอก็ถูกเรียกกลับมา และเดินไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆสถานีนั้นแทน

ร่างสูงโปรง ไหล่ลู่ ผมประบ่านั้นยืนอยู่หน้าเธอไม่ไกล ก่อนหันมาพร้อมไอศรีม2โคน มือเรียวขาวจนเกือบซีดนั้นยื่นให้
"ขอบคุณค่ะ" คำขอบคุณสั้นๆที่แฝงไปด้วยความจริงใจทำให้เขายิ้มเบาๆที่มุมปาก
หลังจากนั่งตากลมจนเกือบเย็นเธอก็ง่วงด้วยอากาศเย็นสบายและเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงหวานเรียกปลุกให้ตื่น
คนข้างตัวดูอารมณ์ดีกว่าก่อนนี้ ทำให้เธอคิดมากว่าทำอะไรน่าขายหน้าตอนหลับไปหรือป่าว
"พี่กลับก่อนนะ กลับดีๆละ ไว้เจอกัน" เขาลาเมื่อส่งเธอถึงหน้าปากซอย
เธอชอบเหลือเกินเวลาที่เขาลาแล้วจบด้วย ไว้เจอกัน

ค่ะ ไว้เจอกัน

ตึ๊ง..ตึ๊ง.. มือเล็กหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ห่างตัว ข้อความที่แสดงทำให้เธออึ้งไปชั่วขณะ
'ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ พี่ก็ชอบน้องวีนะคะ'

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่5

ตึ๊ง..ตึ๊ง.. เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือทำให้วริณจำใจต้องลืมตาขึ้นมาอ่าน
'วันนี้สนุกมากเลยนะ เหนื่อยหรือป่าว'
'ไม่ค่ะ ฮ่าๆพี่เจเมาอ่ะ'
'เมาอะไรคะ'
'เมามากไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ'
'ฝันดีนะคะน้องวี'
นั่นคือข้อความเก่าของเมื่อคืนที่ผานมา และนี่..ข้อความปัจจุบัน
'ตื่นหรือยัง ปวดหัวไหมคะ'
'พี่ขอโทษนะถ้าเมื่อคืนที่ทำอะไรน่าอายเอาไว้'
'สายแล้วนะ'
'พี่เจตื่นเช้าจัง' 
'ไม่นะ ที่จะ10โมงแล้วค่ะ ตอบแบบนี้แปลว่าเพิ่งตื่นใช่ไหม งั้นค่อยคุยก็ได้ค่ะ' ปลายทางตัดบท ข้อความเช้ามาก่อกวนหัวใจแต่เช้าเลย

เธอได้แต่อ่านข้อความซ้ำไปซ้ำมา มองข้อมือตัวเองที่เคยผูกติดกับเขาไว้ สายตาและรอยยิ้มหวานๆ ที่ทำให้เธอใจละลาย อีกทั้ง 'วีน่ารักจัง'

เธอยังคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไรกับตัวเธอเองดี เหลืออีกเพียงเทอมกว่าๆผู้หญิงที่เธอแอบชอบกจะเรียนจบและต้องแยกย้ายไปเข้ามหาวิทยาลัย โอกาสของเธอมีอีกไม่มากนัก อีกหน่อยเธอก็คงไม่สามารถกลับบ้านพร้อมกับเขาได้อีก แต่ทว่าการได้พิมคุย ได้รู้เรื่องราวของของเขา ได้แอบมอง ก็ทำให้เธอมีความสุขดีอยู่แล้ว เธอกลัวว่าหากอีกฝ่ายไม่คิดเหมือนกันแล้วอะไรๆจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

ผู้หญิงกับผู้หญิง พี่เขาต้องคิดว่าฉันเพี้ยนแน่ๆเพราะถ้าเขาคิดไม่เหมือนฉัน.. ถ้าเขาไม่ชอบผู้หญิงล่ะ..
เธอเลือกที่จบความคิดของเธอไว้เท่านี้ และจะไม่ก้าวข้ามเส้นระหว่างเธอและเขาเข้าไป

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่4

หลังจากวันกีฬาสีเสร็จสิ้น รุ่นพี่กองกีฬาก็ได้จัดเลียงขอบคุณนักกีฬาประจำสีที่ร้านอาหารกึ่งคาราโอเกะแห่งหนึ่งแถวชานเมือง

ห้องคาราโอเกะขนาดใหญ่พอที่จะจุ 50 คนสำหรับงานเลี้ยงนี้ล้อมรอบด้วยบ่อน้ำที่ประดับด้วยน้ำพุและแสงไฟสวยงามประหนึ่งสถานที่ซึ่งไม่ใช่เมืองหลวงที่แออัดไปด้วยผู้คน
พี่แสงหรือ'จรัสแสง'เป็นผู้ดำเนินให้งานนี้เป็นไปอย่างสนุกสนานทั้งกิจกรรมและอาหาร

อาหารบนโต๊ะพร่องไปเกือบหมดเมื่อเวลาล่วงเลยมาได้เกือบสี่ทุ่ม.. วริณสนุกกับกิจกรรมต่างทั้งร้องทั้งเต้นรวมไปถึงดวลเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
หลายคนเริ่มเมาและหลายคนเริ่มลากลับบ้าน
วริณก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากกลับบ้านแต่ทว่าผู้หญิงที่เธอสนใจยังคงสนุกสนานกับการชมการแสดงและพูดคุย
"น้องวี มานี่ๆ เร็ว" จรัสแสงเรียกเธอเข้ามาในวงที่นั่งล้อมกันอยู่ประมาณ10คน "เดี๋ยววีเป็นกรรมการให้หน่อย" แล้วจรัสแสงก็อธิบายกติกาให้เธอฟังแบบรวดรัดและรวดเร็ว นอกจากจะต้องคอยจับคนผิดกติกาแล้วเธอยังต้องรินเครื่องดื่มที่เป็นบทลงโทษอีกด้วย
ตำแหน่งที่เธอได้นั่งก็คือตรงข้ามกับ"พี่เจ" เลยทำให้สมาธิจะตัดสินอะไรลดลงทนทีแต่ก็ได้มองพี่เขาเกือบทุกอิริยาบทเลยก็ว่าได้ ทั้งกวน ทั้งเมา ทั้งนิ่ง

"เปลี่ยนเกมส์ดีกว่า เบื่อละ มาๆจับคู่ผู้หญิงคู่ผู้หญิง ผู้ชายคู่ผู้ชายนะ" จรัสแสงอีกเช่นเคยที่เป็นคนจัดแจงเมื่อเวลาล่วงเลยมากว่าครึ่งชั่วโมง "อ้าว ไม่ครบคู่.. งั้นเจคู่กับน้องวีก็แล้วกัน" วริณตกใจเล็กน้อยเมื่อกรรมการกลายมาเป็นผู้ร่วมเล่นโดยไม่ทันตั้งตัว แถมได้คู่กับ'พี่เจ'อีก อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้!!

กติกาก็คือ..คู่นั้นจะต้องมัดข้อมือข้างหนึ่งไว้ด้วยกันจนกว่าจะกลับบ้าน เธอเป็นรุ่นน้องที่น่ารักและยินดีทำตามกติกาเป็นอย่างดี ถึงแม้คู่ของเธอนั้นจะเริ่มเมา..ก็ตาม
"ถ้าพี่เจไม่โอเค แกะผ้านี่ออกก็ได้นะคะ" วริณบอก'พี่เจ'เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายคงอึกอัดที่ต้องผูกข้อมมือกับเธอ
"ไม่เป็นไร สนุกดี" จิราภัทรตอบ "แต่พี่ว่าพี่เริ่มเมาแล้วล่ะ ถ้าพี่อ้วกน้องหนีได้เลยนะ 555" เขาตอบทีเล่นทีจริงกับเธอ
ซักพักเขาเริ่มเมาและเมามาก
เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอจนเธอต้องหลบตา ถึงแม้สติเธอจะได้100%แต่ก็รู้ตัวตลอดเวลา ยิ่งเขาทำแบบนี้เธอยิ่งใจเต้นรัว เขายิ้มหวานให้เธอ "วีน่ารักจัง" คำพูดสุดท้ายก่อนที่เขาจะหมดสติและซบลงที่ไหล่ของเธอ
เขินจังแต่ขออยู่แบบนี้ซักพักแล้วกันนะ

เธอติดรถพี่อีกคนกลับบ้านเพราะทางผ่านเช่นเดียวกับจิราภัทรที่ก็นั่งมาทางเดียวกันเช่นกัน
บ้านของจิราภัทรเป็นบ้านเดี่ยวขนาดกลาง ตกแต่งภายนอกอย่างร่มรื่นถึงก่อนบ้านของเธอไม่นานนัก

ฉันรุ้จักบ้านพี่แล้วนะ




วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่2

ในวิชาค้นคว้า...
วริณเลือกหัวข้อรายงานที่เธอถนัดแล้วเร่งหาหนังสือที่ต้องการ เธอเลือกที่นั่งลับตาคนเพื่อใช้สมาธิให้เต็มที่ แต่สักครู่ก็มีคนมานั่งข้างเธอ
หล่อนกำลังจะตวัดสายตาอำมหิตใส่ผู้มาเยือนแต่กลับทำได้เพียงกลืนคำพูดและตาค้างเท่านั้น
หัวใจเธอตอนนี้เต้นแรงกระสับกระส่ายเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
"อย่าเสียงดังนะ" คนนั่งข้างกระซิบก่อนจะซบหน้ากับหนังสือแล้วหลับไป

ฉันไม่มีสมาธิจะอ่านหนังสือนะแบบนี้ ทำไมต้องมานอนตรงนี้ด้วย!! เธอได้แต่บ่นในใจ
ใจหนึ่งเธอก็อยากจะย้ายที่นั่งแต่คนเยอะเหลือเกิน อีกใจก็อยากอยู่มองหน้าคนที่ตัวเองแอบชอบ ในที่สุดเธอก็แพ้ใจตัวเอง นั่งอยู่ตรงจนหมดคาบเรียน

วริณพบเขาอีกครั้ง..ที่เดิม..เวลาเดิม..
เราไม่เคยทักกันอีกตั้งแต่วันนั้น ไม่ว่าเค้าจะเห็นเธอที่ไหน จนเธอชักจะสงสัยว่าเขาจำเธอได้หรือป่าว

แต่ก็ช่างเถอะ.. ใบหน้าของเขายามหลับนั้นคงจะทำเธอเพ้อไปได้อีกหลายวันทีเดียว


เรื่องไม่เด็ก ตอนที่3

ทุกวันหลังเลิกเรียนวริณต้องอยู่ซ้อมวอลเล่บอลเพื่อแข่งขันในกีฬาสี
สิ่งที่ทำให้เธอยอมและเต็มใจที่จะมาซ้อมและลงแข่งคือ 'พี่เจ' เป็นผู้เล่นในทีมเดียวกัน

พอตำแหน่งเวียนจนเธอได้อยู่ด้านหลังของเขา เธอก็เริ่มสนใจที่จะมองเขามากกว่าลูกวอลเล่บอลเสียอีก

ตุบบ!! 
ลูกบอลเจ้ากรรมจากฝั่งตรงข้ามลอยตรงมาและกระแทกเข้าที่หน้าผากของเธอเต็มๆอย่างไม่ได้ตั้งตัว
"น้องวี!!" ทุกคนรอบๆตกใจอุทานและหันมาหาวริณที่กำลังมึนกับการถูกกระแทกและล้มลง
"น้อง.. น้องคะ" เสียงหวานเรียกขณะที่เธอมนจนเห็นภาพเบลอ "น้องคะ ไหวไหม" เธอได้แต่ส่ายหน้าตอบ
"เด๋วเราพาน้องเค้าไปห้องพยาบาลเอง ซ้อมต่อเถอะ" เจ้าของเสียงนั้นรวบเธอจากด้านข้างรัดเอวเธอกระชับและพาเธอไปยังห้องพยาบาล

"พี่เจ" วริณอุทานเมื่อเห็นหน้าคนข้างๆชัดขึ้น "ขอบคุณนะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ อาจจะปวดที่ปูดหน่อยนะ" เขาบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ
"พี่เคยเจอน้องใช่ไหมคะ ชื่ออะไรนะ ขอโทษที" คำถามของเขาทำให้คำถามที่เคยมีในใจเธอกระจ่างขึ้น พี่เขาจำฉันไม่ได้จริงๆ
"ชื่อวีค่ะ เคยเจอที่สถานีรถไฟฟ้ามั้งคะ"
"จำได้ละ" พูดจบเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้มาก "มันเริ่มเขียวละ คราวหน้าระวังหน่อยล่ะ จะได้ไม่เจ็บตัว"  อ่อ..ที่แท้เอื้อมมาดแผลนี่เอง โอยย แล้วใจฉันจะเต้นแรงไปไหนเนี่ย!

หลังจากวันนั้นทั้งสองก็ได้คุยกันมากขึ้นผ่านกีฬา ที่ต้องมาซ้อมด้วยกันทุกวัน แบบนี้ก็แปลว่าความสัมพันธ์ดีขึ้นใช่ไหม

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ..วริณยังคอยแอบมอง'เขา'ที่ชานชาลาทุกวัน



วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องไม่เด็ก ตอนที่1

ตอนที่ 1

สถานีรถไฟฟ้าขณะนี้ผู้คนเนืองแน่นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เวลาบ่ายแก่ๆแบบนี้ผู้คนเยอะจนเป็นปกติของเมืองหลวง
ระหว่างรอที่ชานชาลาสายตากลมโตก็กวาดไปสะดุดกับร่างสูง ผมยาวประบ่า ดวงตาเรียวเล็กภายใต้แว่นกรอบบางที่ยืนอยู่ไม่ไกล
มือเล็กควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากระโปรงแล้ว...แช๊ะ น่ารัก..

"ยิ้มเล็กยิ้มน้อยอะไร ตั้งแต่เช้า" เสียงแหลมทักเพื่อนสนิท ที่เอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
มือเล็กยื่นโทรศัพท์มือถือที่เปิดรูปค้างไว้ให้เพื่อนดูก่อนจะคลลี่ยิ้มอีกครั้ง
"ที่สถานีรถไฟฟ้าเมื่อวาน น่ารักดี"
"เค้าชื่ออะไร อยู่ห้องไหน" เพื่อนสาวถามอย่างสนใจ
สาวน้อยได้แต่ส่ายหน้า "ยังอ่ะ แค่เห็นเมื่อวาน" วริณถอนหายใจ
"ไปกินข้าวเหอะวี เด๋วคนเยอะไม่มีอะไรกินอีก"

เจออีกแล้ว... สถานีรถไฟฟ้าคนเยอะเหมือนเดิม เวลาเดิม และ เค้ารอรถไฟอยู่ที่เดิม
หล่อนคอยแอบมองเขาตลอดการเดินทาง โชคดีที่บ้านเธออยู่สถานีท้ายๆเลยรู้ว่าเขาลงที่สถานีไหน
และเป็นแบบนี้ทุกวัน..

"กลับก่อนนะเมร์ ฉันมีนัด" วริณลาเพื่อนสนิททันทีที่ออกจากห้องเรียนเนื่องจากวันนี้อาจารย์ปล่อยช้ากว่าปกติ
"ทำไมมีนัดทุกวันเลย นี่มันเพิ่งจะสี่โมงครึ่ง"เมร์นรีบ่นออดหลังจากที่เพื่อนไม่ไปไปเที่ยวด้วยกันหลังเลิกเรียนมาเกือบเดือนแล้ว
"ไปก่อนนะ รีบจริงๆ" พูดไม่ทันจบก็รีบวิ่งสถานีรถไฟฟ้า
หล่อนวิ่งไปถึงชานชาลาเดิมแต่... ไม่เจอ... หล่อนเดินวนหาพร้อมมองนาฬิกา หลายต่อหลายรอบ รถไฟจะมาแล้วเขาไม่มาหรอ..
"อุ๊ย!!" หล่อนอุทานเสียงหลงเมื่อเดินชนบางคน "ขอโทษคะ" ก่อนจะเงยหน้าพบกับคนที่หล่อนรอคอย
เหมือนเวลาหยุดเดินไปชั่ววินาทีเมื่อสายตาทั้งสองประสานกัน.. เมื่อรู้ตัวหล่อนรีบหลบตา
"น้องเป็นอะไรไหมคะ ขอโทษทีพี่ไม่ทันมอง" เสียงหวานขอโทษ โดยมิได้สังเกตว่าพวงแก้มของ 'น้อง' นั้นเริ่มแดงระเรื่อ
"ไม่เป็นไรค่ะ" วริณก้มหน้าก้มตาตอบ
เมื่อรถไฟเทียบชานชาลาทั้งสองก็ถูกฝูงชนอันเนืองแน่นเบียดเสียดดันทั้งคู่เข้าไปในโบกี้
"น้องเป็นอะไรหรือป่าวคะ" เสียงหวานถามคนแปลกหน้าที่ก้นหน้าก้มตาอยู่เบื้องหน้ามากว่าสิบนาทีแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆ โดยไม่รู้เลยว่าคนที่ถูกถามนั้นใจเต้นแรงแทบกระโดดออกมมาเต้น
“น้องชื่ออะไรอ่ะ พี่ชื่อเจนะ น้องอยู่ม.5 ใช่ไหม” เสียงเดิมเอ่ยถาม
วริณเงยหน้ามอง พี่เจ ระยะใกล้(มาก) “ชื่อวีค่ะ” ตาเรียวใต้แว่นนั้นมองหล่อนแทบจะละลายตรงนี้เลย
ถ้าบรรยากาศรอบๆมันดีกว่านี้ก็น่าจะดีสินะ โอยยย...
“ถึงแล้ว พี่ไปก่อนนะคะ แล้วเจอกัน” พูดจบเจ้าของเสียงก็ลงจากรถไฟไปแล้ว เลือกแต่คำพูดที่ลอยวนเวียนเหมือนเพลงที่เปิดซ้ำๆ แล้วเจอกัน...แล้วเจอกัน...

แน่นอนค่ะ ได้เจอกันแน่